หลังจากที่เคยเขียนรีวิวให้กับหนังสือเกี่ยวกับโน้ตบุ๊คเล่มหนึ่งแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่สำหรับตัวเรา แต่แล้วก็ต้องกลับมาเขี่ยนรีวิวและบทความไอทีอีกครั้ง เพราะเป็นอีกอย่างที่เราทำได้ ลองมองย้อนกลับไปถึงความรู้สึกที่เราว่ามันไม่ใช่ นั่งคิดอยู่ว่าทำไมตอนนั้นถึงรู้สึกอย่างนั้น และแล้วก็ได้รู้ว่าที่รู้สึกว่าไม่ใช้นั้นมันไม่ได้เกิดจากตัวงาน แต่มันเกิดจากสถานที่ทำงาน ที่ทำงานเดิมผมต้องไปตอกบัตรนั่งโต๊ะแล้วก็เขียนงานมันทำให้ผมรู้สึกอึดอัด แต่ตอนนี้ผมอยู่ที่ไหนผมก็เขียนงานของผมได้ ผมจึงรู้สึกว่ามันโอเคมากๆเลย และอีกหนึ่งอย่างที่ผมปฏิเสธมานานก็คือการทำบล๊อกและ Social Network เพราะอะไรนะหรอ ผมเคยมี Hi5 และเห็นการคอมเม้นท์ การแอดเพื่อน การอัพเดทสถานะตัวเอง ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกว่า ทำไมต้องบอกใครๆว่า เราทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร แล้วใครเขาอยากรู้ชีวิตของผมกันล่ะ ผมมีมัลติพลาย ไว้แสดงงานที่ถ่ายมา แต่ก็ไม่ค่อยอัพเดท ขี้เกียจมาก แล้วงานก็ไม่เข้า จนกระทั่งผมเริ่มมองหางานที่ใกล้เคียงกับที่ผมสนใจ REporter
ไงล่ะ ซึ่งปกติ ผมก็ไปงานแถลงข่าวด้านไอทีเกือบทุกวัน แล้วผมก็เขียนได้ จึงเริ่มติดต่อเข้าไปยัง นิยสารต่างๆเพื่อเสนองาน แล้วผมจะเอาอะไรไปเสนอล่ะ แบกหนังสือไปนะหรอ ก็พอไหว แล้วมันมีอะไรที่ดีกว่านั้นไหมล่ะ ที่ทำให้เราดูเป็นคนที่อยู่ในวงการไอทีนะมีไหม นั่งคิดอย่างเซ็งเพราะสถานะการบ้านเมืองทำงานหด แล้วก็มีเพื่อนคนหนึ่งจากแดนไกลออนเอ็มพร้อมกับมีลิงค์สีฟ้าๆพ่วงท้ายมา ด้วยอารามที่ไม่มีอะไรทำก็เลยคลิกเข้าไปดูซะหน่อยปรากฏว่ามันเป็นบล๊อกหน้าตาดูเรียบๆ มีเนื้อหาและรูปภาพนิดหน่อย แว๊ปแรกที่เห็นเลยนะ มันโอเคเลย เอาไว้เขียนงาน ให้ลูกค้าดู เลยลงมือสมัครพร้อมกับคิดในใจว่า ทำไมเรานี้ขี้เกียจจังเลย ทั้งๆที่เราก็รู้ว่าเรามีเครื่องมือดีๆแต่ไม่รู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์ ก็รู้อยู่แต่ขี้เกียจ
แล้วด้วยสถานะการณ์หรืออะไรก็แล้วแต่ บวกกับการที่ได้ดูบล๊อกของเพื่อน เลยเกิดบล๊อกนี้ขึ้นมา
ขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้ผมทำบล๊อกนี้ ขอบคุณเพื่อนแนทที่มีลิงค์มาให้ดู
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น